Archive for January, 2012
0008: ความสุขกับความร่ำรวย
ปกติเรามักชอบพูดเรื่องเกี่ยวกับความสุขกันมากกว่าความทุกข์ ถ้าในทางพระพุทธศาสนาอันที่จริงแล้วพระพุทธเจ้าท่านตรัสแต่เรื่องทุกข์มักไม่ตรัสถึงของคู่กับความทุกข์นั่นก็คือความสุขนั่นเอง เพราะถ้าเราพูดแต่เรื่องความสุขก็อาจเป็นการยึดติดกับความสุขซึ่งก็จะนำมาซึ่งความทุกข์ได้ แต่วันนี้ขอพูดเกี่ยวกับความสุขล่ะกันครับ
หลายๆคนที่เป็นนักลงทุนมักมีเป้าหมายของชีวิตเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเลขจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้น ขนาดพอร์ตที่ใหญ่โตขึ้น %ผลตอบแทนที่ทำได้ พอเห็นมันมากขึ้นแล้วก็มีความสุข ทั้งที่หลายคนก็ก้าวข้ามอิสรภาพทางการเงินมาไกลแล้ว จนบางครั้งเราลืมไปว่าชีวิตมนุษย์นั้นการหาความสุขไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องเงินๆทองๆอย่างเดียวหรอก ถ้าเราหมั่นสังเกตมนุษย์คนอื่นๆบนโลกบ้าง หลายคนไม่สนเรื่องอิสรภาพทางการเงินเลยแถมยังมีหนี้สินล้นพ้นตัวมากมาย แต่ก็หัวเราะอารมณ์ดีมีความสุขได้ทั้งวันทุกวัน แม้ไม่มีหลักประกันอะไรในชีวิตหรือสมบัติใดๆเลย หรือถ้าเรามองย้อนกลับไปในสมัยเรียนประถม มัธยม ความสุขเราส่วนใหญ่ในเวลานั้นก็ไม่ใช่เรื่องเงินๆทองๆ คนเรานั้นสามารถหาความสุขได้จากสิ่งอื่นๆอีกมากมาย บนโลกนี้มีอะไรอีกหลายอย่างที่ทำให้เรายิ้มได้เพียงแต่เราไม่หมกมุ่นมากเกินไปกับสิ่งเดิมๆและเติมเต็มความคิดและทัศนคติในด้านอื่นบ้าง เราอาจจะพบเจอความสุขแบบอื่นที่หาได้ง่ายๆและไม่จำเป็นจะต้องสุขแบบที่คนอื่นเขาเป็นกันไม่จำเป็นต้องสุขตามกระแสนิยม
ชีวิตคนเรานั้นแสนสั้นนัก เมื่อตอนอายุ20 ก็คิดว่าโอ้วว ถ้าเราตายตอนอายุ80 ยังเหลือเวลาอีกตั้ง 60ปี ก็เท่ากับ3เท่าของช่วงเวลาที่ผ่านมาอีกนั้นมาก แต่พอแค่อายุ35 ชักไม่คิดแบบนั้นแล้ว สังขารคนเราก็ไม่ได้เหมือนตอนอายุ20แล้ว กินก็ได้น้อยลงมาก และกินของที่น่าจะอร่อยกว่าแต่กลับรู้สึกอร่อยก็น้อยกว่า กินเสร็จลมขึ้นอีก จะไปเที่ยวไหนก็เหนื่อยง่ายกว่าตอนหนุ่มๆ ความสนุกก็น้อยลง อายุมากขึ้นจะแต่งตัวใส่เสื้อผ้าจ๊าบๆแบบวัยรุ่นก็กระชากวัยดูน่าเกลียดอีก ดังนั้น ผมว่าชีวิตเราอยากทำอะไรถ้ามีโอกาสมีกำลังเงินก็จงทำไป เมื่อก่อนผมเองค่อนข้างอคติในแง่ลบกับคนที่ชอบใช้เงินมากๆแม้จะมีฐานะที่พอใช้ได้ แต่พอคิดให้ถี่ถ้วนแล้ว ถ้ามีเงินแล้วได้ใช้เงินเพื่อความสุขของเราของครอบครัวเรามันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าอคติอะไร กลับเป็นสิ่งดีเสียอีก
บางคนคิดว่า รวยแล้วค่อยใช้ก็ได้ ตอนนี้ต้องประหยัดให้มากเพื่อจะได้มีเงินไปใช้ในบั้นปลายของชีวิต ผมว่าเราควรต้องbalance ไม่ควรสุดโต่งจนเกินไป พอเหมาะพอสมควร ซึ่งอยู่จุดไหนนั้นแล้วแต่อัตวิสัยของแต่ละคนบอกได้ยาก เอาเป็นว่า พออายุมากแล้วหรือกำลังจะตายแล้วไม่เสียดายว่าน่าจะทำอะไรในตอนนั้น บางคนอยากไปเก็บเงินไว้ตอนเกษียณจะได้ไปเที่ยวรอบโลก แต่เผลอลืมไปว่า ตอนเกษียณบางคนก็อาจจะเดินแทบไม่ไหวแล้วก็เป็นได้ หรือ มีโรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า หรืออาจจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงในวันที่เกษียณก็เป็นไปได้ การหาความสุขที่นี่และเดี๋ยวนี้ก็เป็นความลงทุนอย่างหนึ่งเช่นกัน อย่าผลัดวันประกันพรุ่งในการหาความสุขเลย…